เปิดวิธีรับมือ “เจ้านายจอมสั่ง” ที่สั่งงานเก่ง ทวงงานเก่ง แต่ไม่ให้เวลาทำงาน

ในบางครั้งสถานที่ทำงานมีความท้าทายให้เราได้ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้านายของเรานั้นมีลักษณะ “สั่งงานเก่ง” และอาจไม่มีความยืดหยุ่นในการบริหารเวลา พวกเขามักจะมาพร้อมกับความคาดหวังที่สูง ส่งงานด่วนมาให้โดยไม่คำนึงถึงเวลาและขอบเขตของงานที่คุณมีอยู่ในมือ บทความนี้จะนำเสนอวิธีการรับมือกับเจ้านายจอมสั่ง ที่มาพร้อมความคาดหวังในงานสูงสุด ๆ ทำให้คุณต้องเร่งมือทำงานทุกครั้งที่ได้รับคำสั่ง จนอาจทำให้เกิดภาวะ “หมดไฟ” ในการทำงานได้

สารบัญบทความ

• ทำไมเจ้านายถึงชอบสั่งงานมากเกินไป?
• พฤติกรรมของเจ้านายที่มักกดดันพนักงาน
• อะไรทำให้พนักงานรู้สึกหมดไฟและหมดกำลังใจในการทำงาน?
• 5 วิธีรับมือเจ้านายจอมสั่ง
• วิธีดูแลใจและเสริมพลังให้กลับมาทำงานด้วยความกระตือรือร้น
• บทสรุปและวิธีนำไปใช้ในชีวิตจริง

ทำไมเจ้านายถึงชอบสั่งงานมากเกินไป?

การเข้าใจถึงเหตุผลของเจ้านายที่สั่งงานเก่งและไม่ให้เวลาพนักงานเพียงพอ อาจช่วยให้คุณปรับทัศนคติในการทำงานและรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น เรามาดูกันว่าอะไรที่ทำให้เจ้านายบางคนเป็นเช่นนี้

1. มุมมองที่ว่า ‘อำนาจการสั่งงาน’ คือสิทธิในการควบคุม หัวหน้างานบางคนมองว่าการสั่งงานนั้นเป็นหน้าที่สำคัญที่พวกเขาต้องควบคุมและสั่งการเอง ทั้งยังอยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ไม่ว่าจะต้องการสิ่งใดก็จะสั่งงานในทันทีโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์และเวลา นั่นทำให้พนักงานรู้สึกเหนื่อยหน่าย
2. ความกังวลเรื่องคุณภาพของงานที่อาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง เจ้านายบางคนอาจมีนิสัยเพอร์เฟกชันนิสต์ (Perfectionist) ที่ไม่ต้องการให้มีความผิดพลาดใด ๆ ซึ่งทำให้พวกเขาต้องคอยควบคุมทุกขั้นตอนของงาน และสั่งให้ส่งงานได้ทันทีเมื่อคิดอะไรออก เพราะกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้งานอาจจะไม่ออกมาตามมาตรฐาน
3. ขาดความเชื่อมั่นในตัวพนักงาน หากเจ้านายไม่ไว้ใจในฝีมือของพนักงาน เขาอาจสั่งงานมากเกินไปเพราะอยากให้ทุกอย่างอยู่ในกำมือของตัวเอง พวกเขามักจะสั่งงานใหม่หรือแก้ไขงานเดิมบ่อย ๆ ส่งผลให้พนักงานรู้สึกเหนื่อยล้าและไม่เป็นที่ยอมรับในความสามารถ

พฤติกรรมของเจ้านายที่มักกดดันพนักงาน

พฤติกรรมบางอย่างของเจ้านายที่ชอบสั่งงานเก่งนั้น อาจทำให้พนักงานรู้สึกว่าเป็นภาระมากกว่าเป็นโอกาสพัฒนา ลองสำรวจลักษณะเหล่านี้เพื่อเข้าใจในสิ่งที่พนักงานต้องเจอ

• การสั่งงานแบบไม่มีขอบเขต บางครั้งเจ้านายอาจส่งงานนอกเวลางานหรือโทรมาตามงานในเวลาส่วนตัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำให้พนักงานรู้สึกไม่อิสระ ทำให้เกิดความเครียดและหมดไฟ
• การคาดหวังผลลัพธ์ที่สูงเกินไป เจ้านายบางคนมีความคาดหวังสูง จนทำให้พนักงานต้องทำงานภายใต้แรงกดดันทุกครั้งที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะถ้าไม่เป็นไปตามที่เขาคาดหวัง พนักงานก็จะรู้สึกไม่มั่นคงในหน้าที่ของตัวเอง
• ไม่ให้เวลาและทรัพยากรเพียงพอ การมอบหมายงานโดยไม่ได้คำนึงถึงทรัพยากรและเวลาในการทำงานทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองถูกใช้งานเกินกำลัง นาน ๆ ไปจะกลายเป็นความเครียดและหมดไฟ

อะไรทำให้พนักงานรู้สึกหมดไฟและหมดกำลังใจในการทำงาน?

การทำงานภายใต้เจ้านายจอมสั่งอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อจิตใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในระยะยาว นี่คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

1. ความเหนื่อยล้าทางจิตใจ (Mental Exhaustion) การทำงานภายใต้แรงกดดันและการถูกสั่งงานบ่อย ๆ จะทำให้พนักงานรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหนก็เหมือนไม่เป็นที่ยอมรับ จนไม่มีกำลังใจในการทำงาน
2. รู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง เมื่อพนักงานไม่ได้รับการชื่นชมจากเจ้านาย หรือแม้แต่คำขอบคุณเพียงเล็กน้อย เขาจะเริ่มรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่ยอมรับและไม่สำคัญ ทำให้ขาดความมั่นใจและหมดไฟในการทำงาน
3. เกิดภาวะ Burnout หรือหมดไฟในการทำงาน เมื่อพนักงานต้องรับมือกับความเครียดจากการทำงานอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถจัดการกับปริมาณงานที่มากเกินไปได้ ทำให้เกิดภาวะ Burnout ที่ยากจะฟื้นตัว
4. ลดทอนประสิทธิภาพและคุณภาพงานลง การทำงานอย่างเร่งรีบและขาดสมาธิจะทำให้พนักงานไม่สามารถทุ่มเทให้กับงานได้เต็มที่ ส่งผลให้คุณภาพงานต่ำลง และนานวันเข้าอาจส่งผลต่อความมั่นคงของงานด้วย

อ่านบทความที่น่าสนใจ : 

• วิธีรับมือหัวหน้ากดดัน พร้อมเทคนิคดูแลจิตใจในที่ทำงาน
• Toxic People หยิบจับด้วยความระวัง คนเป็นพิษที่บั่นทอนชีวิตคุณ!

5 วิธีรับมือเจ้านายจอมสั่ง

การรับมือกับเจ้านายที่ชอบสั่งงานเก่งและคาดหวังสูงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณสามารถปรับตัวและหาวิธีการรับมืออย่างสร้างสรรค์ได้ นี่คือเคล็ดลับที่อาจช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากขึ้น

1.ตั้งเป้าหมายและขีดจำกัดในการทำงานให้ชัดเจน

การมีขอบเขตการทำงานที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับภาระงานที่ถูกมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ลองพูดคุยกับเจ้านายเกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตและเวลาที่ต้องใช้ในการทำงาน

2. สื่อสารตรงไปตรงมาแต่สุภาพ

การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณรู้สึกว่าเวลาที่ได้รับในการทำงานไม่เพียงพอ ควรสื่อสารกับเจ้านายให้เข้าใจอย่างชัดเจน เช่น “ผมสามารถส่งงานนี้ให้ได้ในวันพรุ่งนี้ แต่จะให้ละเอียดกว่านี้หากได้เวลามากขึ้น”

3. บริหารเวลาให้เป็นระบบด้วย Time Blocking

การจัดลำดับความสำคัญของงานที่สำคัญและเร่งด่วน เช่น Time Blocking จะช่วยให้คุณสามารถจัดการงานตามที่ได้รับมอบหมายได้ดียิ่งขึ้น และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในงานที่ต้องทำอย่างรีบร้อน

4. ใช้บุคคลที่สามช่วยเจรจา

หากเจ้านายยังคงสั่งงานแบบไม่สนใจเวลาทำงาน ควรลองหันไปขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่สาม เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือผู้จัดการอาวุโสเพื่อช่วยเจรจาเรื่องการจัดการเวลางาน

5. เสริมพลังใจและเชื่อมโยงกับเพื่อนร่วมงาน