การตัดสินคนด้วยคุกกี้ ๑ ห่อ: สะท้อนความจริงในชีวิต

- October 11, 2024
การตัดสินคนด้วยคุกกี้ ๑ ห่อ: สะท้อนความจริงในชีวิต
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเรามักจะตัดสินคนอื่นผ่านมุมมองของเราเสมอ !
ในชีวิตประจำวัน เรามักพบว่าตนเองตัดสินคนอื่นผ่านมุมมองส่วนตัวโดยไม่ทันคิดถึงความจริงที่ซ่อนอยู่ วันนี้อยากจะขอแบ่งปันข้อคิดจากหนังสือ “๙ นิทานธรรม” ที่ทำให้เห็นความสำคัญของการมองโลกในแง่ดี
เมื่อได้เริ่มอ่านนิทาน เราอาจเห็นเพียงมุมมองของตัวละคร เมื่ออ่านต่อไป เราจะค่อย ๆ เข้าใจมุมมองที่แตกต่างออกไป แต่เราได้ตัดสินทุกอย่างไปแล้วเพียงเพราะความคิดในเชิงอคติของตัวเราเองตั้งแต่ต้น
ซึ่งทักษะการตัดสิน (Judge) ถือว่าเป็นหนึ่งในอคติ (Bias) ที่มาจากจิตวิทยาอคติในการตัดสินใจ (Cognitive Bias) พูดง่าย ๆ ก็คือทุกคนเกิดมามีพื้นฐาน สังคม การเลี้ยงดู ประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกันดังนั้น ไม่มีใครสามารถตัดสินได้อย่างถูกต้องแบบ 100% หรือผิดแบบ 100%
ลองมองตัวอย่างที่เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติแห่งหนึ่ง มีนักธุรกิจหญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวดี ต้องรอเครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทางถึง ๓ ชั่วโมง เธอจึงตัดสินใจซื้อหนังสือ ๑ เล่ม และคุกกี้ ๑ ห่อ เพื่อฆ่าเวลา
เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ ๑ แห่ง เมื่อนั่งลงก็เตรียมหนังสือและคุกกี้ เพื่ออ่านและกินไปพลาง ๆ เธอสังเกตเห็นว่า ข้าง ๆ เธอมีชายหนุ่มนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจใคร ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
ในระหว่างที่เธออ่านหนังสือ เธอสังเกตเห็นชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ เริ่มหยิบคุกกี้จากถุงที่อยู่ระหว่างกัน และกินมันทีละชิ้นไปเรื่อย ๆ
ความโกรธเริ่มก่อตัวในใจของเธอ เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุกกี้และเฝ้ามองนาฬิกาในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย กำลังกินมันให้หมดไป เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า
“ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็….
ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี้ให้แหลกไปเลย”ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน ๑ ชิ้น ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน ๑ ชิ้น ทั้งสองส่งสายตามองกัน เมื่อคุกกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร ชายหนุ่มค่อย ๆ หยิบคุกกี้ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็น ๒ ชิ้น ส่งให้เธอครึ่งชิ้น แต่เธอไม่รู้สึกขอบคุณ เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า
“เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุด ๆ
ช่างไร้การศึกษา ไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำ”เธอลุกขึ้น หยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามอง หัวขโมยผู้ไร้มารยาท ซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม
เมื่อเธอขึ้นเครื่องและหยิบของในกระเป๋าออกมา ก็พบว่า มีคุกกี้ ๑ ห่อ เธอตกใจมาก ถ้าคุกกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า…. คุกกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่เธอตัดสินไปแล้วโดยไม่รู้ความจริง เธอรู้สึกผิดหวังและอยากขอโทษ แต่ก็สายไปเสียแล้ว “เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง”
ในชีวิตของเรา มีกี่ครั้งที่ค้นพบว่า สิ่งที่เราเข้าใจในตอนแรกไม่ใช่ความจริง แต่เป็นเพียงการเข้าใจผิด? และมีกี่ครั้งที่เราขาดความไว้วางใจในผู้อื่น จนทำให้เราตัดสินพวกเขาจากความคิดเย่อหยิ่งของตัวเอง ซึ่งมักจะห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย?
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินผู้อื่น เพราะหลายสิ่งมักไม่เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป
เราควรพยายามมองผู้อื่นในแง่ดีและตั้งคำถามกับตัวเองว่า.. เราได้มองโลกในแง่ดีพอหรือยัง? เราเคยแบ่งปันความสุขหรือช่วยเหลือผู้อื่นบ้างหรือไม่?
เรื่องนี้สอนให้เราเข้าใจว่า ควรคิดบวกและมีน้ำใจเสมอ เพราะในโลกปัจจุบันที่ซับซ้อนและวุ่นวาย เราเผชิญกับความใจร้ายมากพอแล้ว การเลือกที่จะเป็นคนใจดีและมีเมตตาต่อกันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แค่เพียงการแบ่งปันความเห็นอกเห็นใจและการช่วยเหลือกันเล็กน้อย ก็สามารถทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นได้มากมาย
นอกจากนี้ การตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เห็นเพียงผิวเผิน อาจทำให้เราพลาดมุมมองที่สำคัญและเกิดความเข้าใจผิดในชีวิตประจำวัน สิ่งที่เราควรทำคือมองโลกในแง่ดี และแบ่งปันความปรานีให้กับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
“การตัดสินคนอื่นไม่ใช่การกำหนดว่าพวกเขาเป็นคนอย่างไร
แต่กลับเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าตัวเรานั้นเป็นคนอย่างไรเสียมากกว่า”
วันนี้คุณได้แบ่งปันความเห็นอกเห็นใจให้กับใครบ้าง?

ค้นพบหนังสือพัฒนาตัวเองที่เราเลือกมาให้คุณโดยเฉพาะ เพิ่มพลังบวก เสริมทักษะ และพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูรายละเอียดหรือเลือกซื้อหนังสือที่เหมาะกับคุณ!
Share :
ปอย นักการตลาดที่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยแพสชันในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ความเป็น perfectionist ทำให้ปอยมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพทุกครั้ง ปอยเชื่อในการแบ่งปันสิ่งดี ๆ เปรียบเสมือนการปล่อยแสงแดดที่ขับไล่ความหม่นหมองและเติมเต็มความสดใสให้ชีวิต มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาตัวเองไปพร้อมกัน เพราะทุกการพัฒนาเล็ก ๆ สามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้ทุกวัน
- October 11, 2024